ก่อนที่จะปลูกต้นไม้เราควรรู้หลักในการปลูกและการบำรุงรักษาต้นไม้
ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการปลูกไม้ประดับ
การรู้จักการเลือกต้นไม้มาปลูกจะต้องให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมและดินฟ้าอาการในท้องถิ่นนั้น
ๆ เช่น จะต้องรู้ว่าการที่นำเอาต้นไม้ที่เกิดในท้องถิ่นหนาวมาปลูกในท้องถิ่นร้อน
หรือต้นไม้ที่ปลูกในท้องที่มีฝนมาก นำมาปลูกในท้องที่แห้งแล้ง ย่อมทำให้ต้นไม้ไม่เจริญเติบโตงอกงาม
เพราะดินฟ้าอากาศไม่เหมือนกัน เหล่านี้เป็นต้น
การที่ต้นไม้จะเจริญงอกงามสมบูรณ์ดีนั้น ก็ต้องประกอบด้วยสิ่งต่าง ๆ หลายฝ่าย คือ
2.
อุณหภูมิ คือความร้อนหรือความเย็นของอากาศในวันหนึ่ง ๆ อุณหภูมิสูง
หมายความว่าอากาศในวันนั้นร้อนมาก อุณหภูมิต่ำ หมายความว่าอากาศในวันนั้นหนาวเย็น
อุณหภูมิที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของพืชคืออุณหภูมิที่ไม่หนาวและร้อนเกินไป
ประมาณ 15-40 องศาเซ็นเซียส อุณหภูมิที่สูงหรือตํ่าไปพืชจะไม่เจริญงอกงามตามที่ควร
เพราะเมื่ออุณหภูมิต่ำลง ๆ รากของพืชจะดูดน้ำได้น้อย และในทำนองเดียวกัน
ถ้าอุณหภูมิสูงขึ้น ๆ รากของพืชก็จะดูดน้ำได้น้อยเช่นกัน ดังนั้น อุณหภูมิสูงหรือตํ่าเกินไปไม่เหมาะต่อการทำงานของส่วนต่าง ๆ ของพืช ก็เกิดผลทำให้พืชไม่เจริญเติบโตได้
หรือชะงักการเจริญเติบโตในชั่วระยะเวลานั้น ๆ ปัญหาที่ว่าอุณหภูมิตํ่าเกินไป
ทำให้ดินเย็นนั้น คงจะไม่เป็นปัญหา เพราะประเทศเราเป็นประเทศร้อน
แต่มีปัญหาเกี่ยวกับความร้อนในดิน หรืออุณหภูมิสูงเสียมากกว่า ซึ่งมีผลกระทบ
กระเทือนต่อต้นอ่อนของพืช เพราะจะทำให้ต้นอ่อนของพืชเฉา
เนื่องจากความชื้นในดินระเหยไปหมด ในการแก้ปัญหาเหล่านี้
กระทำได้โดยการหาวัตถุคลุมดิน เช่นหญ้าหรือฟางคลุมดินไว้
3.
แสงสว่าง มีความจำเป็นต่อพืชมาก
เพราะแสงสว่างจากดวงอาทิตย์เป็นพลังงานที่จะทำให้พืชเจริญเติบโต
ประโยชน์ของแสงสว่างที่มีต่อพืชมีดังนี้
เป็นพลังงานที่พืชใช้ในการปรุงอาหาร
แสงสว่างที่ส่องลงมาจะต้องมีปริมาณเพียงพอแก่ความต้องการของพืชแต่ละชนิด
เพราะพืชต่าง ๆ ใช้แสงสว่างไม่เท่ากัน แสงน้อยเกินไป พืชจะปรุงอาหารไม่ได้
ดังนั้นในการดูแลรักษาต้นไม้
จำเป็นจะต้องตัดแต่งกิ่งให้แสงแดดส่องลงให้ทั่วถึงทั้งต้น
เพื่อให้ใบทุกใบทำหน้าที่ปรุงอาหารให้เต็มที่
เกี่ยวกับความงอกงามของเมล็ดพืช
เพราะแสงแดดมีแสงอินฟราเรด เป็นแสงที่ช่วยให้พืชงอกงามเร็ว
นอกจากเกี่ยวกับการงอกงามของเมล็ดแล้ว แสงสว่างยังช่วยทำให้ลำต้นเจริญรวดเร็วด้วย
4.
ความชุ่มชื้น หมายถึง ความชุ่มชื้นที่อยู่ในดิน
และความชุ่มชื้นที่อยู่ในอากาศ ความชุ่มชื้นที่อยู่ในดิน สำหรับละลายแร่ธาตุต่าง ๆ
แล้วรากก็ดูดส่งไปตามลำต้นถึงกิ่งและใบ
เมื่อได้รับแสงสว่างก็ปรุงแต่งให้เป็นอาหารบำรุงโครงร่างของต้นไม่ให้เจริญเติบโตต่อไป
ดินที่อุดมสมบูรณ์หากขาดน้ำเสียแล้ว
รากก็ไม่สามารถจะดูดเอาแร่ธาตุที่เป็นอาหารของพืชมาจากดินได้
ดินที่สมบูรณ์นั้นก็หาประโยชน์มิได้ นอกจากความชุ่มชื้นในดินแล้ว
ความชุ่มชื้นในอากาศก็มีความจำเป็นต่อต้นไม้
เพราะทำให้ต้นไม้สดชื่นอยู่เสมอสีไม่เหี่ยวเฉา
5.
อากาศ ในอากาศมีก๊าซสคาร์บอนไดออกไซด์ (co2) และก๊าซอ๊อกซิเจน (o2) พืชดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปทางใบ เพื่อนำไปสร้างน้ำตาลกลูโคส (C6H12o6)
ส่วนก๊าซอ๊อกซิเจนที่ต้นไม้หายใจเข้าไป เพื่อนำไปทำให้น้ำตาลกลูโคสสลายตัว
ก่อให้เกิดกำลังงานสร้างความชื้นเพื่อถ่ายเทให้แก่ต้นไม้ การถ่ายเทของอากาศจะช่วยให้น้ำในใบของต้นไม้ระเหยได้เร็ว
ซึ่งเรียกว่า “การคายน้ำ” เมื่อต้นไม้คายน้ำ
ทำให้น้ำในต้นไม้น้อยลงไป รากก็จะดูดน้ำจากที่ละลายปุ๋ย
หรือมีอาหารของพืชขึ้นมาแทนน้ำที่ระเหยไป ไปตามกิ่งก้านของต้นไม้
ส่งไปยังใบปรุงแต่งเป็นอาหาร ต้นไม้ก็เจริญเติบโตขึ้น
6.
ปุ๋ย หรืออาหารของพืช พืชต้องการอาหาร ซึ่งเป็นแร่ธาตุต่าง ๆ ที่อยู่ในดิน ในอากาศ
หรือในน้ำ เพื่อไปสร้างความเจริญเติบโตให้แก่พืช
แร่ธาตุที่พืชต้องการนั้นมีด้วยกันหลายชนิด
ธาตุแต่ละชนิดทำให้เกิดประโยชน์แก่พืชไม่เหมือนกัน
พืชแต่ละชนิดก็ต้องการแร่ธาตุที่เป็นอาหารไม่เหมือนกัน
7.
ปราศจากศัตรูและโรค ต้นไม้แม้จะมีอาหารดี ถ้าถูกศัตรูรบกวนก็จะทำให้ต้นไม้นั้นไม่
เจริญเติบโตเท่าที่ควร
ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องดูแลบำรุงรักษา
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น